วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2556

การหายตัวไปของสึซึมิยะ ฮารุฮิ


การหายตัวไปของสึซึมิยะ ฮารุฮิ

เรื่องย่อ
การหายตัวไปของสึซึมิยะ ฮารุฮิ[1][2][3] (ญี่ปุ่น: 涼宮ハルヒの消失 Suzumiya Haruhi no Shōshitsu ?; อังกฤษ: The Disappearance of Haruhi Suzumiya หรือ The Vanishment of Haruhi Suzumiya) เป็นอะนิเมะอิงนิยายชื่อเดียวกัน ซึ่งเป็นเล่มที่สี่ในไลท์โนเวลชุด สึซึมิยะ ฮารุฮิ ของนะงะรุ ทะนิงะวะ (Nagaru Tanigawa) อะนิเมะนี้ เกียวโตแอนิเมชัน (Kyoto Animation) ผลิต, ทะสึยะ อิชิฮะระ (Tatsuya Ishihara) กับ ยะซุฮิโระ ทะเกะโมะโตะ (Yasuhiro Takemoto) ร่วมกันกำกับ, มีความยาวหนึ่งร้อยหกสิบสี่นาที (เกือบสามชั่วโมง) ซึ่งเท่ากับอะนิเมะโทรทัศน์เจ็ดตอนรวมกัน, และสำนักพิมพ์คะโดะกะวะ (Kadokawa Shoten) นำออกฉายในโรงภาพยนตร์ญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2553 แล้วทำเป็นดีวีดีและบลูเรย์ขายตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม ปีนั้น ส่วนในทวีปอเมริกาเหนือ บันไดเอนเตอร์เทนเมนต์ (Bandai Entertainment) ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่, ในสหราชอาณาจักร มังงะเอนเตอร์เทนเมนต์ (Manga Entertainment) เผยแพร่ และในประเทศไทย โรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เผยแพร่ อะนิเมะ การหายตัวไปของสึซึมิยะ ฮารุฮิ ขึ้นชื่อว่า ไม่มีแนวเรื่องแนวหนึ่งแนวใดเป็นการจำเพาะ เพราะมีทั้งตลก วีรคติ วิทยาศาสตร์ ลึกลับ จินตนิมิต เสี้ยวชีวิต และละคร[4] โดยดำเนินเรื่องสืบจากอะนิเมะโทรทัศน์ชุด เรียกเธอว่าพระเจ้า สึซึมิยะ ฮารุฮิ (The Melancholy of Haruhi Suzumiya) ซึ่งมียี่สิบแปดตอนและสร้างจากนิยายเล่มที่หนึ่ง สอง สาม และห้าจากไลท์โนเวลชุดเดียวกัน และอะนิเมะนี้มีสถานะเป็นตอนที่ยี่สิบเก้าต่อกันนั้น[5] เรื่องราวเกิดระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม ถึง 24 ธันวาคม ปีเดียวกัน ซึ่งเป็นเวลาหนึ่งเดือนหลังจากงานวัฒนธรรมตามตอนสุดท้ายของอะนิเมะโทรทัศน์ เรียกเธอว่าพระเจ้า สึซึมิยะ ฮารุฮิ สิ้นสุดลง โดยในวันที่ 16 ธันวาคมนั้น หน่วย SOS (SOS Brigade) ของฮารุฮิ สึซึมิยะตกลงจะกินเลี้ยงหม้อไฟที่ห้องของหน่วยในวันที่ 24 ธันวาคม เนื่องในวันคริสตสมภพ แม้โรงเรียนห้ามก่อประกายไฟในอาคารก็ตาม ครั้นเช้าวันที่ 18 ธันวาคม เคียวน์มาถึงโรงเรียน และพบว่าทุกสิ่งเปลี่ยนไป ด้วยฮารุฮิ, อิซึกิ โคอิซึมิ และเพื่อนบางห้องสาบสูญไปพร้อมกัน, ฝ่ายมิคุรุ อาซาฮินะ หญิงสาวนักเดินทางข้ามเวลาซึ่งเป็นรุ่นพี่มัธยมศึกษาปีที่ 5 และคนที่เขาหลงรัก กลับจำเขามิได้ และเดินทางข้ามเวลาไม่เป็นอีกต่อไป, ส่วนยูกิ นางาโตะ แอนดรอยด์ที่มนุษย์ต่างดาวสร้างขึ้น กลับกลายเป็นมนุษย์จริง ๆ และมีอารมณ์ความรู้สึกดังมนุษย์ทั่วไปขึ้นมา, ขณะที่เรียวโกะ อาซากุระ แอนดรอยด์ที่เป็นเพื่อนร่วมห้องของเขาและถึงแก่ความตายไปแล้ว กลับฟื้นชีพและกลายเป็นมนุษย์ปรกติเช่นกัน, และชามิเซน แมวที่ฮาริฮุเคยบันดาลให้พูดจาได้อย่างมนุษย์ ก็กลับไปเป็นแมวธรรมดาดังเดิม นอกจากนี้ ยังปรากฏว่า นอกจากเขาแล้ว ไม่มีใครในโรงเรียนที่รู้จักฮารุฮิและหน่วย SOS เลย เคียวน์พบเค้าเงื่อนเดียว คือ ข้อความที่ยูกิเขียนลงบนที่คั่นหนังสือแล้วเสียบทิ้งไว้ก่อนเกิดความเปลี่ยนแปลงว่า ภายในกำหนดสองวัน ให้เขารวบรวม "กุญแจ" มาไขโปรแกรมโปรแกรมหนึ่งซึ่งตนสร้างทิ้งเอาไว้ ระหว่างครุ่นคิดถึงเงื่อนงำนั้น เคียวน์ได้ทำความรู้จักกับยูกิที่เป็นมนุษย์มากขึ้น และพบว่า บัดนี้ ยูกิชอบเขาเป็นอันมาก จนวันที่ 20 ธันวาคม เคียวน์ทราบจากทานิงุจิ เพื่อนร่วมห้อง ว่า เพื่อนที่หายตัวไปนั้น ที่จริงเป็นนักเรียนอยู่โรงเรียนมัธยมอื่นตลอดเวลา เคียวน์จึงตามไปและพบฮารุฮิกับอิซึกิ อย่างไรก็ดี ทั้งคู่จดจำเขามิได้ ที่สุด เคียวน์บอกเธอว่า เขาคือ "จอห์น สมิธ" (John Smith, ชื่อที่เขาคิดขึ้นมาเล่น ๆ แล้วบอกฮารุฮิ ครั้งที่เขาย้อนเวลาไปสู่ช่วงเทศกาลทะนะบะตะเมื่อสามปีก่อน เพื่อช่วยฮารุฮิในวัยมัธยมต้นเขียนพื้นสนามโรงเรียนเป็นข้อความถึงเจ้าหญิงทอผ้า) เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นความทรงจำเดียวที่ฮารุฮิมีอยู่เกี่ยวกับโลกเดิม เธอจึงเชื่อเขาและร่วมมือด้วย ฮารุฮิช่วยเขาตามหาและรวบรวมสมาชิกของหน่วย SOS ได้เป็นผลสำเร็จ สมาชิกทุกคนประชุม ณ ห้องของหน่วย ปรากฏว่า โปรแกรมข้างต้นมีอำนาจย้อนวันเวลา และกุญแจสำคัญสำหรับไขโปรแกรมก็คือ การที่พวกเขาทั้งหลายได้อยู่พร้อมหน้ากัน เพื่อให้สรรพสิ่งกลับเป็นดังเดิม เคียวน์กดปุ่มให้โปรแกรมทำงาน โปรแกรมนั้นนำพาเขาย้อนกลับไปสู่เทศกาลทะนะบะตะเมื่อสามปีก่อนดังกล่าว ณ ที่นั้น เขาได้พบมิคุรุในวัยสาวที่เดินทางมาจากโลกอนาคตเพื่อรอคอยช่วยเหลือเขา ทั้งในการที่เขาจะได้ช่วยฮารุฮิวัยเด็กเขียนพื้นสนามโรงเรียน และที่เขาจะได้ฟื้นฟูโลก ก่อนถึงเวลาสมควร มิคุรุและเคียวน์ใช้เวลาอยู่ร่วมกันในค่ำคืนนั้นให้มากที่สุด และมิคุรุซบบ่าเขาหลับไปใต้แสงดาว เมื่อตื่นแล้วทั้งคู่ก็พากันไปหายูกิ ซึ่งในเวลานั้นอยู่ในวัยมัธยมต้นดุจฮารุฮิ ยูกิมอบโปรแกรมล้างความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแก่โลกให้เขา โปรแกรมดังกล่าวบรรจุในปืนกระบอกหนึ่ง และจำต้องยิงใส่บุคคลผู้ยังให้เกิดความเปลี่ยนแปลงนั้น แล้วเคียวน์และมิคุรุวัยสาวก็เดินทางกลับมายังวันที่ 18 ธันวาคม ของโลกปัจจุบัน เพื่อยิงปืนเช่นว่าใส่ตัวต้นเหตุ ซึ่งก็คือ ยูกินั้นเอง ยูกิอาศัยความสามารถพิเศษของฮารุฮิเปลี่ยนแปลงความทรงจำของคนทั้งปวง ด้วยหวังว่าจะทำให้ทุกคนเป็นสุขขึ้นเมื่อมีชีวิตอันราบเรียบราวกับไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กันมาก่อน แต่งดเว้นเคียวน์ไว้คนหนึ่ง เพื่อให้เขาเลือกระหว่าง โลกเดิมที่สับสนอลหม่าน กับโลกใหม่ที่เธอเปลี่ยนให้ เคียวน์ไต่สวนตนเองอยู่เป็นนาน ที่สุดก็เห็นว่า โลกเดิมซึ่งมีฮารุฮิที่ดื้อรั้นซุกซนไม่เกรงกลัวใครนั้นมีชีวิตชีวาและความสุขยิ่งกว่า แต่ก่อนที่เขาและมิคุรุจะได้ยิงปืนใส่ยูกิ เขาก็ถูกเรียวโกะโผเข้าแทงจนบาดเจ็บสาหัสด้วยสำคัญว่าเขาจะทำร้ายยูกิ อย่างไรก็ดี ตัวเขาเอง, มิคุรุวัยเด็ก และยูกิเดินทางจากอนาคตกลับมา ณ เวลานั้นเพื่อจัดการเรื่องราวให้ตลอดรอดฝั่งได้อย่างทันท่วงที โดยยูกิจากอนาคตประมือด้วยเรียวโกะ รักษาเคียวน์ที่นอนเจ็บอยู่บนพื้น แล้วคว้าปืนไปยิงยูกิแทนเคียวน์ ส่วนมิคุรุวัยสาวนั้นสะกดให้มิคุรุวัยเด็กหมดสติไปเพื่อป้องกันมิให้เธอทราบเรื่องเกี่ยวกับตนเองในวัยสาวอันจะยังให้ประวัติศาสตร์เสียสมดุลและเพื่อรักษาความลับราชการตามหน้าที่[6] เมื่อเคียวน์ตื่นขึ้น เขาพบว่าโลกกลับเป็นปรกติแล้ว โดยที่คนอื่น ๆ จะได้มีความทรงจำเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของโลกแม้สักน้อยก็หาไม่ อิซึกิซึ่งนั่งปอกผลไม้อยู่ข้างเตียงแจ้งแก่เขาว่า เขาตกบันไดหัวฟาดพื้นสลบไสลไปสามวันตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม ระหว่างที่สมาชิกหน่วย SOS พากันไปซื้อข้าวของเตรียมเลี้ยงหม้อไฟในวันที่ 24 ธันวาคม และจัดงานเลี้ยงให้เด็ก ๆ ในวันที่ 25 ธันวาคม เคียวน์ยังพบว่า ฮารุฮินอนเฝ้าเขาอยู่ข้างเตียงไม่ห่างตลอดสามวันนั้นด้วย ไม่กี่วันต่อมา เคียวน์ออกจากโรงพยาบาล และมีชีวิตประจำวันดังเดิม ลุวันที่ 24 ธันวาคม เมื่อเลิกเรียน เขาก็มุ่งหน้าไปยังห้องของหน่วย SOS เขาหยุดอยู่เบื้องหน้าประตูเมื่อได้กลิ่นหอมโชยมาจากข้างใน ซึ่งหมายความว่า ฮารุฮิและคนอื่น ๆ ตั้งหม้อไฟกันแล้ว เขาเดินเข้าไปพร้อมรอยยิ้มเปี่ยมสุขบนใบหน้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Author



แจกฟรี !! ดูฟรี!! ไม่มีโฆษณา!! ชอบเราให้กำลังใจเราโปรดกดติดตาม!!

Ads